Monday, November 23, 2009

โครงการศึกษาชีวิตและช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส

รายวิชา มมศท 101 การศึกษาทั่วไปเพื่อการพัฒนามนุษย์

1. โครงงานของกลุ่มที่ 52-190

2. ชื่อหัวข้อโครงงาน โครงการศึกษาชีวิตและช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส

3. จุดประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กผู้ด้อยโอกาสในด้านต่างๆให้มีความเป็นอยู่ที่ดี อาทิ ปัจจัยพื้นฐาน สันทนาการ เป็นต้น
2. เพื่อเป็นสื่อกลางถ่ายทอดสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กผู้ด้อยโอกาสให้คนทั่วไปได้รับทราบถึงปัญหาของเด็กกลุ่มหนึ่งในสังคมมากชึ้น เพื่อที่จะได้ตระหนักและร่วมมือกันช่วยเหลือเพื่อพัฒนาชีวิตของเด็กๆต่อไป

4. ความรู้เดิมเกี่ยวกับโครงงาน
จากการที่สมาชิกในกลุ่มได้เคยศึกษาจากหนังสือและวารสารต่างๆพบว่าปัญหาเด็กด้อยโอกาสในสังคมส่วนใหญ่เกิดจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว สถานสงเคราะห์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนที่ประสบปัญหาทางครอบครัวและสังคม ได้รับการพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งด้านสุขภาพ อนามัย จิตใจ วิชาความรู้ การประกอบอาชีพ และทักษะชีวิตโดยครอบครัวและสังคมจนสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สถานสงเคราะห์บางแห่งจะรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล บางแห่งมีการขอรับบริจาคเงินและสิ่งของจากองค์กรหรือบุคคลภายนอก โดยจะเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมสร้างความสุขให้แก่เด็กๆ เช่น เล่นเกมส์ ร้องเพลง เป็นต้น โดยสิ่งของที่มักจะได้รับบริจาคคือขนม และนม ส่วนสิ่งที่ต้องการมากเช่นกันคือพวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก และเวชภัณฑ์


5. ความรู้ใหม่เกี่ยวกับโครงงาน
จากการทบทวนเอกสารและข้อมูลการศึกษาของบุคคลต่าง ๆ ที่รวบรวมจากบทสรุปจากแผนพัฒนาเด็ก และเยาวชนด้อยโอกาส ปี 2545-2549 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งรวบรวมโดยสภาองค์กรพัฒนาเด็กและเยาวชน เพื่อนำเสนอในการประชุมสัมมนาองค์พัฒนาเอกชนอาเซียน - ญี่ปุ่น ณ ประเทศอินโดนีเซีย ได้สะท้อนให้เห็นภาพของเด็กด้อยโอกาสในสังคมไทย ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สภาพของเด็กไทยว่ายังคงเป็นปัญหารุนแรงที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข บางส่วนบานปลาย ยากแก่การแก้ไข โดยเฉพาะเด็ก 6 ประเภทได้แก่ 
 1. เด็กที่ถูกละเมิด และทำร้ายซึ่งรวมถึงโสเภณีเด็ก การค้าเด็ก เด็กถูกใช้แรงงาน เด็กถูกละเมิดร่างกายและเพศ
 2. เด็กถูกทอดทิ้ง รวมถึงเด็กเร่รอน เด็กขอทาน เด็กในชุมชนแออัด เด็กถูกละเลยและกำพร้า
 3. เด็กทำความผิด รวมถึงเด็กติดยาและค้ายา เด็กถูกจับ เด็กในสถานพินิจ และเด็กพฤติกรรมเบี่ยงเบน
 4. เด็กผิดปกติทางจิต รวมทั้งเด็กโรคจิต เด็กพยายามฆ่าตัวตาย และมีปัญหาทางอารมณ์
 5. เด็กขาดโอกาส รวมถึงเด็กยากจนมาก เด็กในท้องถิ่นห่างไกล เด็กจากครอบครัวพ่อแม่ตกงาน เด็กไร้สัญชาติ และเด็กอพยพ
 6. เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์รวมทั้งเด็กติดเอดส์ และเด็กกำพร้าจากพ่อแม่ติดเอดส์ 
 โดยสรุป เด็กด้อยโอกาสยังคงหลากหลาย และมีจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากสภาพวิกฤติเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น ในขณะที่การดูแลยังเป็นแบบตั้งรับ การให้บริการยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง และไม่เป็นเอกภาพ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นต่างคนต่างทำกัน และขึ้นกับเป้าหมายส่วนองค์กรมากกว่าภาพรวมทั้งหมด การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล แม้จะมีกฎหมายเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนจำนวนมาก แต่ครอบครัวอ่อนแอลงโดยเฉพาะในปัจจุบันที่กระแสบริโภคนิยมกำลังรุนแรง ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรม และการด้อยโอกาสที่สลับซ้อนมากยิ่งขึ้น ยากแก่การปกป้องคุ้มครอง ประกอบกับอิทธิพลการแพร่กระจายยาเสพติดไปยังเยาวชนนับวันรุนแรงมากขึ้นทั้งในชุมชน และโรงเรียนทั่วประเทศ
ท่ามกลางปัญหาวิกฤติที่รุมล้อมสังคม ในขณะนี้ทำให้เด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มชนที่มากที่สุด และอ่อนแอที่สุดของประเทศกำลังตกที่ท่ามกลางความเสี่ยงนานับประการ
 บทบาทขององค์กรพัฒนาเอกชน ที่ทำงานในการปกป้องคุ้มครองเด็กจะดำเนินการในการติดตาม และรวมรวบข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์เด็ก สอบสวนและรายงานจำนวนเด็กถูกละเมิด ช่วยเหลือเด็กจากการถูกละเมิดอย่างครบวงจร เช่น ดูแลให้ที่อยู่พักพิง และการดำเนินการตามกฎหมาย การติดตามผล การให้การศึกษากับองค์กรที่ทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองเด็ก และเชื่อมกับองค์กรหาทุนต่าง ๆ เชื่อมโยงเครือข่ายและทำงานร่วมกัน ในกิจกรรมป้องกันเด็กถูกละเมิดในระดับชาติ และประสานกิจกรรมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น คณะทำงานด้านเด็กมีเครือข่ายหลัก 18 องค์กร ที่ทำงานเชื่อมคนทำงานด้านเด็กทั้งภาครัฐและเอกชน
 การดำเนินงานที่ผ่านมาของเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กได้รณรงค์ เรื่องอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติซึ่งเป็นกฏหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต่อรัฐภาคี (ประเทศสมาชิก) ทั้งปวงนับแต่วันที่รัฐภาคีนั้น ร่วมลงนามและให้สัตยาบัน เป็นกฎหมายที่มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่เอื้อต่อการพัฒนาการของเด็ก โดยไม่มีกฎเกณฑ์เรียกร้องให้เด็กมีหน้าที่ใด ๆ ตอบแทนสังคม เพราะถือว่าเด็กเป็นกลุ่มบุคคลที่อ่อนแอกว่าบุคคลทั่วไปเช่นเดียวกับคนพิการ คนชราและสตรี 
 คณะทำงานด้านเด็กได้เริ่มรณรงค์ เรื่องอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เพื่อเร่งให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาฯ จนถึงปี พ.ศ. 2535 นายกรัฐมนตรีนายอานันท์ ปันยารชุณ จึงได้ลงนามภาคยานุวัติสาร ( หมายถึง การยอมรับที่จะนำไปปฏิบัติตาม ) เข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2535

6.แรงจูงใจ/เหตุผลที่เลือกหัวข้อนี้
เนื่องจากกลุ่มได้เห็นว่าในปัจจุบันสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมานานัปการมาก ความเจริญด้านวัตถุเข้ามามีผลต่อค่านิยมของคนในสังคม จนอาจจะลืมนึกถึง สิ่งหนึ่งที่สำคัญนั้นคือ การแสดงออกถึงความเอื้ออาทรต่อกันในสังคม ทุกคนต่างเร่งรีบที่จะแสวงหาความสะดวกสบาย สร้างฐานะและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชีวิต และครอบครัวของต้นในด้านกายภาพ จนละเลยที่จะให้ความสำคัญด้านจิตใจ เราอาจจะทอดทิ้งใครบางคนในครอบครัวจนทำให้เกิดปัญหาอย่างเงียบๆซึ่งนำไปสู่... ปัญหาการทอดทิ้งกันและกันในสังคม หนึ่งในปัญหานั้นก็คือเด็กกำพร้าและเด็กพิการ คนกลุ่มนี้ยังขาดโอกาสอยู่อีกมากโดยเฉพาะเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งสมควรที่คนในสังคมจะร่วมกันช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น

7.แนวทางการดำเนินงาน
แนวทางวิเคราะห์ความต้องการของชุมชน
สอบถามทางสถานสงเคราะห์ว่าต้องการสิ่งของหรือความช่วยเหลือในด้านใด ซึ่งพบว่าแม้ว่าสถานสงเคราะห์จะได้รับความช่วยเหลือมากแต่ก็ยังคงขาดสิ่งของที่จำเป็นบางอย่าง เช่นเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทำความสะอาดพวกผงซักฟอก น้ำยาล้างจานซึ่งขาดแคลนอย่างมาก

การเตรียมกิจกรรม
สอบถามข้อมูลพื้นฐานจากทางสถานสงเคราะห์ว่าต้องการหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมใดร่วมกับเด็กๆได้บ้าง เพื่อนำมาประเมินแนวทางการช่วยเหลือ

การดำเนินกิจกรรม
1.การเข้าไปยังสถานสงเคราะห์เพื่อให้ความช่วยเหลือ ทั้งในรูปสิ่งของบริจาคพวกเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่นผงซักฟอก น้ำยาล้างจานและการทำกิจกรรมร่วมกันกับเด็กๆ รวมไปถึงการทำสื่อให้คนภายนอกได้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก เพื่อชักชวนให้เข้ามาร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือเด็กๆเหล่านี้
2.เปิดรับบริจาครวมถึงการติดต่อไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อขอความอนุเคราะห์สิ่งของและเงินสำหรับนำไปมอบให้แก่สถานสงเคราะห์

การประเมินโครงงาน
ความสัมฤทธิ์ผลของโครงการ วัดจากความพึงพอใจของเด็ก การประเมินจากสถานสงเคราะห์ และการตอบรับสื่อจากผู้ที่ได้รับชมสื่อโดยอยู่ในรูปแบบสอบถามว่ามีความพอใจในระดับใดและสนใจที่จะเข้าไปร่วมกิจกรรมหรือบริจาคสิ่งของให้เด็กๆมากขึ้นหรือไม่หลังจากชมสื่อ
8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการทำโครงงานนี้
1. เด็กผู้ด้อยโอกาสได้รับความช่วยเหลือในด้านต่างๆให้มีโอกาส และมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
2. กระตุ้นให้ผู้อื่นได้เห็นถึงปัญหาเด็กด้อยโอกาสในสังคมซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว และร่วมมือกันช่วยเหลือ.ให้เด็กเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น และช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุของปัญหา

ประโยชน์ต่อสมาชิกในกลุ่ม
1. ช่วยให้สมาชิกรู้จักวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน มีการเรียบเรียงระบบความคิดและ ระบบการทำงานอย่างชัดเจนและรอบคอบ ได้ลงมือปฏิบัติจริงทำให้ได้รับประสบการณ์ในการทำงานเป็นหมู่คณะ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น มีสติ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว มีความมั่นใจ
2. ช่วยพัฒนาความเป็นบัณฑิตของสมาชิกในกลุ่มโดยทำให้รู้จักการทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น มีการเสียสละทำงานเพื่อส่วนรวม ทำให้ผู้อื่นมีความสุข
3. ช่วยให้สมาชิกรู้จักใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประกอบโครงงานและเป็นแหล่งข้อมูลในการดำเนินกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9. ความสอดคล้องของโครงงานกับจุดมุ่งหมายของหมวดวิชาศึกษาทั่วไป
แนวทางการดำเนินโครงงานนี้ สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหมวดวิชาการศึกษาทั่วไป ตามเจตนารมณ์ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) คือ
- การพัฒนามนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ บัณฑิตมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมให้มีประสิทธิภาพ สันติสุช
- การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งที่มนุษย์เกี่ยวข้อง คือ พัฒนาความสัมพันธ์กับสังคม ให้สังคมมีสันติภาพ ความสงบสุข
- การพัฒนามนุษย์ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกาลเวลายุคสมัย และความเปลี่ยนแปลง คือรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของสังคม และพัฒนาตนเองให้เท่าทันยุคสมัย หรืออยู่เหนือยุคสมัย
- การพัฒนามนุษย์ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทศะ คือเป็นสมาชิกที่ดีและช่วยสร้างสรรค์สังคม ทั้งสังคมไทยและสังคมโลก
- การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ทั้งในด้านการทำงานร่วมกัน การเรียนรู้ การรับข้อมูล รวมถึงยกระดับจิตใจ
- การพัฒนาปัญญาซึ่งเป็นแกนกลางของการพัฒนามนุษย์ให้มีศักยภาพ คือ สามารถคิด พิจารณา วินิจฉัยไตร่ตรอง รู้เข้าใจเหตุผล รู้เท่าทันสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง และมิอิสรภาพ

10. คำสำคัญ (Key Words)
ปัญหาสังคม, เด็กด้อยโอกาส, เด็กกำพร้า, สถานสงเคราะห์,การบริจาค, ความช่วยเหลือ

1 comment:

  1. พี่คนที่เล่านิทาน นี่สวยน่ารักมากเลยคะ ^^

    ReplyDelete